สหรัฐแบนส่งออกไมโครชิปไม่กระทบไทย หนุน SET INDEX ปิด +4.01 จุด โบรกฯ แนะจับตาท่องเที่ยวฟื้นตัว

เรื่องน่าสนใจล่าสุด

หุ้นไทยปิดตลาด +4.01 จุด โบรกฯ ชี้หุ้นไทยฟื้นตัวรับสัญญาณบวก หลังสหรัฐประกาศใช้มาตรการควบคุมการส่งออกชิป ไม่กระทบไทย อีกทั้งยังมีแนวโน้มเชิงบวกของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว การบิน บริการ ที่เกี่ยวเนื่องกันจากมาตรการเปิดประเทศที่เป็นไฮซีซั่นช่วงปลายปี มองกรอบการลงทุนพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,585 จุด และแนวต้านที่ 1,605 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.01 จุด หรือ +0.25% โดยปิดตลาดที่ 1,592.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 66,429.13 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ดัชนีปรับตัวเคลื่อนไหวแกว่งตัวอยู่ในแดนลบภาคเช้าของการซื้อขาย ก่อนที่จะทยอยปรับตัวขึ้นในช่วงบ่ายของการซื้อขายและปิดตัวในแดนบวก โดยระหว่างวัน โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,595.57 จุด ขณะเดียวกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,579.78 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 963 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 563 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 702 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +2,546.89 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +148.98 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,234.24 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -461.62 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,896.69 ล้านบาท ปิดที่ 612.00 บาท ลดลง 58.00 บาท
2.BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,439.07 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,762.76 ล้านบาท ปิดที่ 171.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
4.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,668.02 ล้านบาท ปิดที่ 189.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,879.11 ล้านบาท ปิดที่ 73.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 189.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 1.89%
2.PTTEP ปิดที่ 171.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.78%
3.BBL ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.78%
4.BH ปิดที่ 230.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ0.88%
5.BCP ปิดที่ 31.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 5.08%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 319.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.31%
2.HANA ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.13 %
3.DTAC ปิดที่ 46.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.60%
4.KKP ปิดที่ 70.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.05%
5.COM7 ปิดที่ 31.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.55%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,166.89 จุด เพิ่มขึ้น 19.05 จุด หรือ 0.89% ขณะที่ชนี SET50 ปิดที่ 961.71 จุด เพิ่มขึ้น 8.75 จุด หรือ 0.92% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 645.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.23 จุด หรือ 0.66%

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในอาเซียน เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐประกาศใช้มาตรการควบคุมการส่งออกไมโครชิป รวมถึงยังมีโมเมนตัมเชิงบวกจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวเข้ามาสนับสนุน

ขณะที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มสื่อสารกันอย่างคึกตักตามประเด็นข่าวการควบรวมกิจการระหว่างบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ซึ่งทำให้หุ้นของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ได้รับอานิสงส์ไปด้วย รวมทั้งมีประเด็นเฉพาะตัวของ ADVANC ที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรจากที่มองโอกาส ADVANC จะต่อราคาเสนอซื้อ TTTBB-JASIF ลงได้

ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ นายกิจพณ คาดว่า ตลาดฯ น่าจะแกว่งตัวผันผวนอยู่ในกรอบ โดยได้แรงหนุนจากการเก็งกำไรในผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ทยอยประกาศออกมา ให้แนวรับไว้ที่ 1,585 จุด และแนวต้าน 1,605 จุด