วงการสมาร์ตโฟนได้รับข่าวดีอีกครั้ง เมื่อ iQOO Z10 Turbo+ สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจากแบรนด์ย่อยของ vivo ได้สร้างสถิติใหม่บนแพลตฟอร์มทดสอบประสิทธิภาพ AnTuTu ด้วยคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 3.26 ล้านคะแนน ซึ่งถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเทคโนโลยีมือถือ และยืนยันความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของแบรนด์ iQOO ในตลาดสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม
การทำลายสถิติที่ไม่เคยมีมาก่อน
คะแนน 3.26 ล้านจาก AnTuTu ที่ iQOO Z10 Turbo+ ได้รับนั้น ไม่เพียงแค่เป็นสถิติใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดที่วงการเทคโนโลยีเคยคิดว่าเป็นไปได้ในปัจจุบัน ตัวเลขนี้สูงกว่าสมาร์ตโฟนเรือธงระดับท็อปของแบรนด์ชั้นนำอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ iQOO Z10 Turbo+ กลายเป็นสมาร์ตโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลกณ จุดนี้
เมื่อเปรียบเทียบกับผลการทดสอบของสมาร์ตโฟนเรือธงชั้นนำในเดือนกรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมา พบว่า Red Magic 10S Pro+ ที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Extreme Edition ได้คะแนน 2.94 ล้าน, vivo X200 Ultra ด้วยชิปเดียวกันได้ 2.89 ล้าน และ iQOO Neo 10 Pro+ ได้ 2.88 ล้านคะแนน ซึ่งหมายความว่า Z10 Turbo+ มีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งหลักถึง 10-13% อย่างชัดเจน
ขุมพลัง MediaTek Dimensity 9400+ ที่ทรงพลัง
ความสำเร็จของ iQOO Z10 Turbo+ ในการทำลายสถิติ AnTuTu มาจากการใช้ชิปเซต MediaTek Dimensity 9400+ ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร ขั้นสูงสุดจาก TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Limited) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน
สถาปัตยกรรมของชิป Dimensity 9400+ ประกอบด้วยคอร์ประมวลผลทั้งหมด 8 คอร์ ที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีตเพื่อให้ประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้:
คอร์ประสิทธิภาพสูง Cortex-X925 จำนวน 1 คอร์ ที่สามารถทำงานที่ความเร็วสูงสุด 3.73 GHz ซึ่งเป็นคอร์หลักสำหรับการประมวลผลที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การเล่นเกมระดับแอปพลิเคชันที่ต้องการกราฟิกสูง การประมวลผลวิดีโอ 4K และแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์
คอร์ประสิทธิภาพสูง Cortex-X4 จำนวน 3 คอร์ ที่ทำหน้าที่ประมวลผลงานทั่วไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับการทำงานหลายๆ งานพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล
คอร์ประหยัดพลังงาน Cortex-A720 จำนวน 4 คอร์ ที่ได้รับการออกแบบเพื่อจัดการงานทั่วไปและการประหยัดพลังงาน ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น
ระบบกราฟิกระดับเกมมิ่งเรือธง
iQOO Z10 Turbo+ มาพร้อมกับชิปกราฟิก Immortalis-G925 ระดับ 12 คอร์ ที่ได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษสำหรับการเล่นเกมและการประมวลผลกราฟิกระดับมืออาชีพ ชิปกราฟิกนี้รองรับเทคโนโลยี Ray Tracing แบบ Hardware-accelerated ทำให้สามารถแสดงผลแสงเงาและภาพกราฟิกที่สมจริงเหมือนการเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์ระดับไฮเอนด์
นอกจากนี้ ระบบหน่วยความจำของเครื่องยังได้รับการอัปเกรดด้วยแรม LPDDR5X Ultra ที่มีความเร็วสูงถึง 9,600 Mbps ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงที่สุดในตลาดปัจจุบัน ทำงานร่วมกับระบบสตอเรจ UFS 4.1 ที่ให้ความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลที่รวดเร็วที่สุด
แบตเตอรี่มหาศาลและระบบชาร์จไฟเร็ว
หนึ่งในจุดเด่นที่โดดเด่นของ iQOO Z10 Turbo+ คือแบตเตอรี่ความจุ 8,000 mAh ซึ่งถือเป็นแบตเตอรี่ที่มีความจุมากที่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนเรือธง แบตเตอรี่ขนาดนี้สามารถรองรับการใช้งานหนักได้ตลอดวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานหมด
ระบบการชาร์จไฟเร็ว 90W ที่มาพร้อมกับเครื่อง สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ภายในเวลาไม่ถึง 60 นาที ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็วและปลอดภัยที่สุดในปัจจุบัน
ระบบระบายความร้อนขั้นสูง
เพื่อรองรับประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขนาดนี้ iQOO ได้พัฒนาระบบระบายความร้อนแบบใหม่ที่ประกอบด้วย ช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ระบบนี้ใช้เทคโนโลยี Vapor Chamber ขนาดใหญ่ร่วมกับ Graphite Thermal Pads หลายชั้น และพัดลมระบายความร้อนภายในที่ทำงานอัตโนมัติ
ระบบระบายความร้อนดังกล่าวสามารถลดอุณหภูมิภายในเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในขณะที่เครื่องทำงานหนักเป็นเวลานาน เช่น การเล่นเกมแบบ intensive หรือการถ่ายวิดีโอ 8K ต่อเนื่อง ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องคงที่และไม่มี thermal throttling
นวัตกรรมหน้าจอรีเฟรชเรต 144 Hz สำหรับ Valorant Mobile
iQOO Z10 Turbo+ จะเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนรุ่นแรกๆ ในโลกที่รองรับโหมดรีเฟรชเรต 144 Hz สำหรับเกม Valorant Mobile (หรือ Valorant: Genesis ในประเทศจีน) อย่างเป็นทางการ
เกม Valorant Mobile ได้รับการปรับแต่งกราฟิกโดย Riot Games ร่วมกับ Photon Studio ของ Tencent เป็นพิเศษเพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถของฮาร์ดแวร์ iQOO Z10 Turbo+ การรองรับรีเฟรชเรต 144 Hz นี้หมายความว่าผู้เล่นจะได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ทันทีมากกว่าที่เคยมีมา
การออกแบบและวัสดุระดับพรีเมียม
ด้านการออกแบบ iQOO Z10 Turbo+ ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด “Gaming Beast with Premium Touch” โดยใช้วัสดุ Aluminum Alloy ระดับการบินสำหรับเฟรม และกระจก Gorilla Glass Victus 2 สำหรับหน้าจอและด้านหลัง
ตัวเครื่องมาในธีมสี Gaming Black พร้อมลายเส้นที่ส่องแสง RGB ได้ และ Cosmic Silver ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัย น้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ประมาณ 210 กรัม ซึ่งถือว่าเบาสำหรับสมาร์ตโฟนที่มีแบตเตอรี่ขนาด 8,000 mAh
ระบบกล้องระดับโปรเฟสชันแนล
iQOO Z10 Turbo+ มาพร้อมระบบกล้องหลัก 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX989 ขนาด 1 นิ้ว กล้องมุมกว้าง 50MP และกล้องเทเลโฟโต้ 12MP ที่รองรับการซูมออปติคอล 3 เท่า และซูมดิจิทัลสูงสุด 100 เท่า
ระบบ AI Photography ที่พัฒนาโดย iQOO สามารถปรับปรุงคุณภาพภาพอัตโนมัติ รองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย การถ่ายภาพเคลื่อนไหว และการถ่ายวิดีโอ 8K ที่ความเร็ว 30fps
ระบบเสียงและการเชื่อมต่อ
สำหรับระบบเสียง iQOO Z10 Turbo+ มาพร้อมลำโพงสเตอริโอคุณภาพสูงที่ได้รับการปรับแต่งโดย Harman Kardon รองรับเทคโนโลยี Dolby Atmos และ Hi-Res Audio สำหรับประสบการณ์เสียงที่เหนือระดับ
ด้านการเชื่อมต่อ เครื่องรองรับ 5G SA/NSA ทุกย่านความถี่ Wi-Fi 7 Bluetooth 5.4 และ NFC พร้อมระบบ GPS ความแม่นยำสูงที่รองรับดาวเทียมหลายระบบ
การเปิดตัวและราคา
iQOO ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเปิดตัว Z10 Turbo+ ที่ประเทศจีนในวันที่ 7 สิงหาคม 2025 ซึ่งเป็นวันนี้ โดยคาดว่าราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 3,999 หยวน (ประมาณ 19,000 บาท) สำหรับรุ่น 12GB+256GB
สำหรับตลาดไทยและตลาดสากล คาดว่า iQOO จะประกาศแผนการเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 โดยราคาอาจจะสูงขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากภาษีนำเข้าและต้นทุนการตลาด
ผลกระทบต่อวงการสมาร์ตโฟน
การที่ iQOO Z10 Turbo+ สามารถทำคะแนน AnTuTu ได้สูงถึง 3.26 ล้านคะแนนนั้น ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังส่งสัญญาณชัดเจนว่าการแข่งขันในตลาดสมาร์ตโฟนระดับไฮเอนด์จะเข้มข้นมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญในวงการคาดการณ์ว่า ความสำเร็จของ iQOO Z10 Turbo+ จะกดดันให้แบรนด์คู่แข่งหลักอย่าง Samsung, Apple, และ Xiaomi ต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งในท้ายที่สุดจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่จะได้รับเทคโนโลจีที่ดีขึ้นในราคาที่แข่งขันได้มากขึ้น
บทสรุป
iQOO Z10 Turbo+ ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการสมาร์ตโฟนด้วยคะแนน AnTuTu สูงสุดในโลกที่ 3.26 ล้านคะแนน ความสำเร็จนี้มาจากการผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงหลายด้าน ตั้งแต่ชิปเซต MediaTek Dimensity 9400+ ขั้นสูงสุด, แบตเตอรี่ขนาดมหาศาล 8,000 mAh, ระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง, และนวัตกรรมการรองรับ 144 Hz สำหรับเกม Valorant Mobile
การเปิดตัวของ iQOO Z10 Turbo+ ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงมาตรฐานของสมาร์ตโฟนเรือธงเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตของเทคโนโลยีมือถือที่จะก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ผู้บริโภคที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบัน iQOO Z10 Turbo+ อาจเป็นคำตอบที่พวกเขากำลังรอคอย
