I-Motor ร่วมมือ Asahi Denso เปิดตัวนวัตกรรมคันเร่งอัจฉริยะครั้งแรกในไทย พร้อมเป้าหมายขายรถ EV 2,400 คันปี 2568

Exclusive ยานยนต์

วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 – อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีล้ำสมัยครั้งใหญ่ เมื่อบริษัท ไอ-มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้นำการผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของไทยภายใต้แบรนด์ I-Motor ได้ประกาศความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับ Asahi Denso (อาซาฮี เดนโซ่) บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “คันเร่งอัจฉริยะ (Smart Throttle)” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่นี้ถือเป็นการเปิดประตูสู่ “New Era of Electric Motorcycle Technology” หรือยุคใหม่ของเทคโนโลยีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาปฏิวัติประสบการณ์การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้มีความปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยนวัตกรรมใหม่นี้จะพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2569

การผนึกกำลังยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย

นายปรีชา ประเสริฐถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ได้กล่าวถึงแนวคิดหลักของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นี้ว่า “ในฐานะผู้นำด้านรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย I-Motor เราเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ‘ความปลอดภัย’ คือหัวใจสำคัญที่สุดของการพัฒนายานยนต์ทุกประเภท ด้วยแนวคิดและปรัชญาดังกล่าว เราจึงมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้งาน”

“ความร่วมมือกับ Asahi Denso ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในเรื่องของเทคโนโลยีระบบควบคุมสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จึงถือเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและผลักดันคุณภาพของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าผลิตในประเทศไทยให้สามารถก้าวสู่ระดับสากลได้อย่างแท้จริง” นายปรีชาได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือดังกล่าว

คันเร่งอัจฉริยะ: นวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงประสบการณ์การขับขี่

นวัตกรรม “คันเร่งอัจฉริยะ (Smart Throttle)” ถือเป็นแนวคิดใหม่ล่าสุดในการออกแบบ Human-Machine Interface หรือ HMI ซึ่งเป็นระบบอินเทอร์เฟซที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่กับตัวรถ โดยการผสานเทคโนโลยี APS (Accelerator Position Sensor) หรือเซนเซอร์ตำแหน่งของคันเร่งเข้ากับระบบการควบคุมแบบใหม่ที่เน้นให้ความสำคังต่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้งาน

ระบบคันเร่งแบบคันโยกด้วยนิ้วโป้ง (Thumb Throttle)

จุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดของคันเร่งอัจฉริยะคือการนำเสนอระบบคันเร่งแบบคันโยกด้วยนิ้วโป้ง (Thumb Throttle) มาใช้งานแทนการบิดแฮนด์แบบดั้งเดิมที่เราคุ้นเคยกัน ซึ่งนวัตกรรมนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าของข้อมือและทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

การใช้งานก็เรียบง่ายเพียงแค่ใช้นิ้วโป้งกดคันโยกที่อยู่ใต้แฮนด์ขวา โดยมีให้เลือกใช้ 2 แบบหลัก ได้แก่ คันโยกแบบหมุน (Rotary Type) และ คันโยกแบบสไลด์ (Slide Type) ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานทั้งในการเดินทางภายในเมืองและการเดินทางระยะไกล ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการและลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล

การออกแบบแฮนด์จับใหม่เพื่อความสะดวกสบาย

นอกเหนือจากระบบคันเร่งที่ล้ำสมัยแล้ว แฮนด์จับฝั่งขวายังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดให้มีความกระชับและเข้ากับมือของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับสรีระของผู้ขับขี่ในทุกรูปแบบและช่วยลดความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นจากการขับขี่ระยะทางไกล

ด้วยการติดตั้งฟังก์ชันควบคุมที่ครบครันและจำเป็นต่อการใช้งาน เช่น ปุ่มสลับโหมดการขับขี่ระหว่าง ECO (โหมดประหยัดพลังงาน) และ PWR (โหมดสมรรถนะสูง) เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดที่เหมาะสมกับสถานการณ์การใช้งาน ปุ่มเปิด/ปิดระบบไฟฟ้าหลัก และสวิตช์ Reset เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยสูงสุดในการใช้งานประจำวัน

นวัตกรรมทั้งหมดเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ I-Motor ที่มุ่งมั่นและตั้งใจจริงในการยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพการใช้งาน

ผลิตภัณฑ์ปัจจุบันและเป้าหมายการขายปี 2568

ในปัจจุบัน I-Motor มีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าวางจำหน่ายอยู่ 2 รุ่นหลัก ได้แก่ รุ่น THUNDER และรุ่น VAPOR โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 57,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่แข่งขันได้ในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าระดับกลาง

สำหรับปี 2568 นี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ท้าทายไว้ที่ 2,400 คันทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง

การเติบโตของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้รับแรงสนับสนุนจากหลายปัจจัยสำคัญ ได้แก่ นโยบายส่งเสริมจากภาครัฐที่มุ่งเน้นการลดมลพิษทางอากาศ การขยายตัวของสถานีชาร์จไฟฟ้า (EV Charging Station) ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ และการเพิ่มขึ้นของการใช้งานในภาคธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่ม Food Delivery ที่กำลังขยายตัวอย่างมาก

กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกสำหรับการเติบโตในอนาคต

เพื่อตอบสนองต่อการเติบโตของตลาดและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นายปรีชาได้วางแผนกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกที่ครอบคลุมและหลากหลาย ดังนี้

การรุกตลาดมอเตอร์ไซค์น้ำมันดั้งเดิม

I-Motor วางแผนขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดรถมอเตอร์ไซค์น้ำมันเดิมที่มีขนาดใหญ่ เพื่อตอบสนองนโยบาย Carbon Neutrality หรือการลดคาร์บอน ของภาครัฐ และเป็นการสร้างทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การสร้างสังคมมอเตอร์ไซค์ EV อย่างยั่งยืน

บริษัทฯ จะมีความร่วมมือกับภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เป็นวงกว้างและสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์สำหรับผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานรถ EV เป็นเรื่องปกติและเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

การขยายเครือข่าย I-Charger อย่างครอบคลุม

I-Motor มีแผนการวางจุดบริการชาร์จไฟ I-Charger ให้กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเริ่มต้นจากร้านผู้แทนจำหน่าย และขยายไปยังสถานที่ยุทธศาสตร์อื่นๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานีน้ำมัน และแหล่งชุมชน เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานของผู้ใช้ I-Motor ในอนาคตและลดความกังวลเรื่องการชาร์จไฟ

การขยายโชว์รูมและผู้แทนจำหน่าย

ปัจจุบัน I-Motor มีโชว์รูมและผู้แทนจำหน่ายทั้งสิ้น 54 ดีลเลอร์กระจายอยู่ใน 29 จังหวัดทั่วประเทศ และมีแผนการขยายเครือข่ายเพิ่มเติมเพื่อเข้าถึงลูกค้าในทุกพื้นที่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีกด้วยในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคและสร้างความคึกคักให้กับตลาด

กิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดครึ่งปีหลัง 2568

เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างการรับรู้ในแบรนด์ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 บริษัทฯ มีแผนการออกบูธในงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องรวมทั้งสิ้น 5 งานสำคัญ ได้แก่

Mini Motor Show 2025 จัดขึ้น ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 3 สิงหาคม 2568 ซึ่งจะเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของกิจกรรมส่งเสริมการขายในครึ่งปีหลัง

2025 Krungsri Auto Ultimate Test Drive & Ride จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ถึง 17 สิงหาคม 2568 โดยจะเป็นงานที่เน้นการให้ผู้บริโภคได้ทดลองขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจริง เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงและความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์

Big Motor Sale 2025 จัดขึ้น ณ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 22 ถึง 31 สิงหาคม 2568 ซึ่งเป็นงานมอเตอร์โชว์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ จะเป็นโอกาสสำคัญในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ให้กับผู้บริโภคจำนวนมาก

Thai-China Cooperation EXPO 2025 จัดขึ้น ณ Challenger Hall เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งจะเป็นการแสดงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ไทยในเวทีระหว่างประเทศ

I-Motor’s Dealer Business Trip to Japan Mobility Show 2025 การเดินทางไปดูงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน 2568 เพื่อศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางธุรกิจ

อนาคตของอุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไทย

การเปิดตัวนวัตกรรมคันเร่งอัจฉริยะครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับเทคโนโลยีของ I-Motor เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไทยที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านนโยบายต่างๆ การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้า และความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น คาดว่าตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

การที่บริษัทไทยอย่าง I-Motor สามารถพัฒนาและนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยได้ ยังเป็นการยืนยันถึงขีดความสามารถของวิศวกรและนักพัฒนาไทยในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในประเทศและต่างประเทศได้

สรุป

การเปิดตัวนวัตกรรมคันเร่งอัจฉริยะของ I-Motor ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไทย ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค

ด้วยเป้าหมายการขาย 2,400 คันในปี 2568 และกลยุทธ์การตลาดที่ครอบคลุม I-Motor กำลังเตรียมพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับสังคมไทย

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือทดลองขับได้ที่ผู้แทนจำหน่าย I-Motor ทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทผ่านช่องทางการสื่อสารอย่างเป็นทางการ