เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัว GWM TANK 500 DIESEL ราคาพิเศษ 1.399-1.599 ล้านบาท เสริมทัพเอสยูวีไซซ์ยักษ์สู่ตลาดไทย

Exclusive ยานยนต์

บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศเปิดตัวรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด GWM TANK 500 DIESEL อย่างเป็นทางการ โดยนำเสนอราคาพิเศษสำหรับลูกค้า 500 คันแรกในราคาเริ่มต้น 1.399 ล้านบาท ถึง 1.599 ล้านบาท พร้อมส่งมอบทันทีที่ได้รับการสั่งซื้อ

การเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นการเสริมทัพให้กับแบรนด์ GWM ในกลุ่มเอสยูวีขนาดใหญ่ หลังจากความสำเร็จของ TANK 300 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย GWM TANK 500 DIESEL จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการเอสยูวีที่มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมกับสมรรถนะที่เหนือกว่า

โปรโมชั่นพิเศษ 500 คันแรก ลดสูงสุด 100,000 บาท

สำหรับการเปิดตัวครั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้า 500 คันแรก โดยแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่

รุ่น GWM TANK 500 DIESEL 2.4T PRO ราคาพิเศษ 1.399 ล้านบาท ลดจากราคาปกติ 50,000 บาท เป็นรุ่นเริ่มต้นที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไป

รุ่น GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA ราคาพิเศษ 1.499 ล้านบาท ลดจากราคาปกติ 100,000 บาท เป็นรุ่นกลางที่เพิ่มความหรูหราและความสะดวกสบายมากขึ้น

รุ่น GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA 4WD ราคาพิเศษ 1.599 ล้านบาท ลดจากราคาปกติ 100,000 บาท เป็นรุ่นท็อปสุดที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และฟีเจอร์ออฟโรดที่ครบครัน

เครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน

จุดเด่นสำคัญของ GWM TANK 500 DIESEL คือการใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน ที่สามารถผลิตกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที

การเลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซลในยุคที่ตลาดรถยนต์กำลังหันไปสู่พลังงานไฟฟ้าอาจดูขัดแย้ง แต่สำหรับเอสยูวีขนาดใหญ่แล้ว เครื่องยนต์ดีเซลยังคงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเนื่องจากให้แรงบิดสูง เหมาะสำหรับการลากจูง การขับขี่ในเส้นทางยาว และความประหยัดน้ำมันที่ดีกว่าเครื่องยนต์เบนซิน

เครื่องยนต์นี้ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างราบรื่น และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง การมีเกียร์หลายขั้นช่วยให้เครื่องยนต์สามารถทำงานในช่วงที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดได้ตลอดเวลา

ระบบขับเคลื่อนและโหมดการขับขี่หลากหลาย

สำหรับรุ่น 2.4T PRO และ 2.4T ULTRA จะมาพร้อมกับ 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ (Normal Mode) สำหรับการขับขี่ทั่วไป โหมดสปอร์ต (Sport Mode) ที่เพิ่มการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ และโหมดประหยัด (Eco Mode) ที่ปรับการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อประหยัดเชื้อเพลิง

ส่วนรุ่นท็อปสุด 2.4T ULTRA 4WD นั้นมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและโหมดการขับขี่ถึง 8 แบบ ประกอบด้วย โหมด 2H สำหรับการขับขี่บนถนนปกติ โหมด 4H สำหรับการขับขี่ 4 ล้อในสภาพถนนปกติ โหมด 4L สำหรับการขับขี่ออฟโรดที่ต้องการแรงบิดสูง โหมดพื้นหิมะ (Snow Mode) โหมดพื้นโคลน (Mud Mode) โหมดพื้นทราย (Sand Mode) โหมดพื้นหิน (Rock Mode) และโหมดผู้เชี่ยวชาญ (Expert Mode) ที่ให้ผู้ขับขี่ปรับแต่งระบบต่างๆ ได้เอง

เทคโนโลยีออฟโรดขั้นสูง

GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 4WD มาพร้อมกับเทคโนโลยีออฟโรดที่ทันสมัย อาทิ ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (Tank Turn) ที่ช่วยให้รถสามารถหมุนตัวในพื้นที่จำกัดได้อย่างง่ายดาย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติสำหรับทางออฟโรด (Off-road Cruise Control) ที่ช่วยรักษาความเร็วคงที่ขณะขับขี่ในภูมิประเทศที่ยากลำบาก

นอกจากนี้ยังมีระบบล็อกเฟืองด้านหน้าและด้านหลัง (Front and Rear Differential Lock) ที่ช่วยให้รถสามารถผ่านสภาพถนนที่ยากลำบากได้ดีขึ้น ระบบเหล่านี้ทำให้ GWM TANK 500 DIESEL เป็นเอสยูวีที่ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง แต่ยังสามารถไปผจญภัยในธรรมชาติได้อย่างมั่นใจ

ดีไซน์โครงสร้างแข็งแกร่ง

GWM TANK 500 DIESEL ใช้โครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม (Body-on-Frame) ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบเดียวกับรถกระบะและเอสยูวีออฟโรดตัวจริง โครงสร้างนี้ให้ความแข็งแกร่งและทนทานมากกว่าโครงสร้างแบบโมโนค็อก มีมิติตัวถังกว้าง 1,934 มิลลิเมตร ยาว 4,886 มิลลิเมตร และสูง 1,905 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร

ขนาดที่ใหญ่โตนี้ทำให้ภายในห้องโดยสารมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่หรือการเดินทางท่องเที่ยวแบบยาวนาน การมีระยะฐานล้อที่ยาวช่วยให้การขับขี่มีความมั่นคงและสบาย โดยเฉพาะบนทางยาว

ระบบล้อและยางที่แตกต่างตามรุ่น

รุ่น 2.4T PRO มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง Westlake ขนาด 265/60 R18 และยางอะไหล่ ขนาดยางนี้เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและให้ความสบายในการขับขี่

ขณะที่รุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD ได้รับการอัปเกรดเป็นล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง Continental ขนาด 265/50 R20 และยางอะไหล่ ยางยี่ห้อ Continental เป็นยางระดับพรีเมียมที่ให้สมรรถนะและความปลอดภัยสูง ล้อขนาด 20 นิ้วช่วยเพิ่มความสปอร์ตและความสวยงามให้กับรถ

เทคโนโลยีภายในทันสมัย

ภายในห้องโดยสาร GWM TANK 500 DIESEL มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล TFT ขนาด 12.3 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลการขับขี่อย่างครบครันและชัดเจน รวมถึงหน้าจอสัมผัสมัลติมีเดียที่ในรุ่น 2.4T PRO จะมีขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนรุ่น 2.4T ULTRA จะได้หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 14.6 นิ้ว

ระบบชาร์จไร้สาย 50W ทำให้สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องใช้สายเคเบิล นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB Type-A/C ด้านหน้า และ Type-A ด้านหลัง เพื่อรองรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาพร้อมกับระบบกรองอากาศ N95 ที่ช่วยกรองฝุ่นละออง PM2.5 และเชื้อโรคต่างๆ ทำให้อากาศภายในรถสะอาดและปลอดภัย โดยเฉพาะในสถานการณ์มลพิษทางอากาศที่เป็นปัญหาในเมืองใหญ่

แพดเดิลชิฟต์บนพวงมาลัยช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย เพิ่มความสนุกและการควบคุมในการขับขี่

ความหรูหราเพิ่มเติมในรุ่น ULTRA

รุ่น 2.4T ULTRA มาพร้อมกับฟีเจอร์เพิ่มเติมที่เน้นความหรูหราและความสะดวกสบาย เริ่มต้นด้วยการตกแต่งด้วยหนัง Nappa คุณภาพสูงที่ให้ความนุ่มและหรูหรา

ระบบเสียงรอบทิศทางแบบพื้นฐาน 12 ลำโพง ให้คุณภาพเสียงที่เป็นเลิศ เหมาะสำหรับการฟังเพลงหรือดูหนังขณะจอดพัก

ระบบบันทึกตำแหน่งพร้อมระบบ Welcome Seat และฟังก์ชันปรับเบาะไฟฟ้า 6 ทิศทาง ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับท่านั่งให้เหมาะสมกับรูปร่างได้อย่างแม่นยำ และจดจำตำแหน่งที่ชื่นชอบไว้

ระบบเบาะนวดไฟฟ้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ช่วยลดความเมื่อยล้าในการเดินทางระยะยาว

หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา ทำให้ห้องโดยสารดูโปร่งสบายและให้ความรู้สึกเหมือนเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอก

ตำแหน่งในตลาดและคู่แข่ง

GWM TANK 500 DIESEL เข้าสู่ตลาดเอสยูวีขนาดใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งมีคู่แข่งหลักอย่าง Toyota Fortuner, Ford Everest, Isuzu MU-X, Mitsubishi Pajero Sport และ Chevrolet Trailblazer

จุดแข็งของ GWM TANK 500 DIESEL คือราคาที่แข่งขันได้ พร้อมกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ครบครันกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน การมีโครงสร้างบอดี้ออนเฟรมและเครื่องยนต์ดีเซลทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเอสยูวีที่แข็งแกร่งและประหยัดน้ำมัน

กลยุทธ์การตลาดและการส่งมอบ

การเปิดตัวพร้อมส่งมอบทันทีเป็นจุดแข็งสำคัญ เนื่องจากในตลาดปัจจุบันลูกค้าหลายรายต้องรอคิวการส่งมอบรถใหม่เป็นเวลานาน GWM แสดงให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมและความมั่นใจในการจัดจำหนายที่ดี

โปรโมชั่นลด 50,000-100,000 บาทสำหรับ 500 คันแรกเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยสร้างความสนใจและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในช่วงแรก

แนวโน้มและอนาคต

การเปิดตัว GWM TANK 500 DIESEL แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเกรท วอลล์ มอเตอร์ในการขยายส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเอสยูวีขนาดใหญ่ที่ยังมีความต้องการสูง

แม้ว่าตลาดรถยนต์โลกจะกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคไฟฟ้า แต่สำหรับเอสยูวีขนาดใหญ่ในประเทศกำลังพัฒนาแล้ว เครื่องยนต์ดีเซลยังคงมีความเหมาะสมเนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่ยังไม่ครบครัน และความต้องการใช้งานในระยะทางไกลและการลากจูง

สรุป

GWM TANK 500 DIESEL เป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคที่ต้องการเอสยูวีขนาดใหญ่ในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย การมีเครื่องยนต์ดีเซลทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดน้ำมันและแรงบิดสูงสำหรับการใช้งานหนัก

ราคาพิเศษ 1.399-1.599 ล้านบาทสำหรับ 500 คันแรกถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่สนใจ โดยเฉพาะเมื่อรถพร้อมส่งมอบทันที ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในตลาดที่มีปัญหาการรอคิว

ความสำเร็จของ GWM TANK 500 DIESEL จะขึ้นอยู่กับการยอมรับของผู้บริโภคต่อแบรนด์จีน คุณภาพของรถ และการบริการหลังการขาย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันกับแบรนด์ญี่ปุ่นและอเมริกันที่มีฐานลูกค้าแข็งแกร่งในกลุ่มเอสยูวีขนาดใหญ่อยู่แล้ว