บริษัท Infinix ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ใหม่ล่าสุด HOT 60 Series ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีรุ่นเรือธง HOT 60 Pro+ ที่สร้างสถิติใหม่ด้วยความบางเพียง 5.95 มิลลิเมตร พร้อมสเปกระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้
Infinix แบรนด์สมาร์ตโฟนชื่อดังที่โด่งดังเรื่องความคุ้มค่า ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเทคโนโลยีมือถือด้วยการเปิดตัว HOT 60 Series ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและดีไซน์ที่ทำลายทุกข้อจำกัด รุ่นไฮไลต์อย่าง HOT 60 Pro+ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนด้วยการเป็นสมาร์ตโฟนจอโค้ง 3 มิติที่บางที่สุดในโลกในขณะนี้
ซีรีส์นี้ประกอบด้วยสามรุ่นหลัก ได้แก่ HOT 60 Pro+ ในราคา 6,499 บาท, HOT 60 Pro ราคาเริ่มต้น 4,999 บาท และ HOT 60i ราคา 3,999 บาท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในทุกระดับ
นวัตกรรมดีไซน์ Ultra-Slim ที่ทำลายสถิติโลก
HOT 60 Pro+ ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการสมาร์ตโฟนด้วยความบางเพียง 5.95 มิลลิเมตร ทำให้เป็นสมาร์ตโฟนจอโค้ง 3 มิติที่บางที่สุดในโลกในปัจจุบัน ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยี Distributed Flat Architecture ที่เป็นนวัตกรรมด้านวิศวกรรมขั้นสูง
เทคโนโลยีนี้ช่วยให้วิศวกรสามารถจัดวางส่วนประกอบสำคัญ 10 ชิ้น รวมถึงถาดซิม ลำโพง และพอร์ต Type-C ได้อย่างมีประสิทธิภา�พสูงสุด โดยไม่กระทบต่อความสวยงามของดีไซน์โดยรวม ผลลัพธ์ที่ได้คือเครื่องที่บางกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 12.5% และเบากว่า 4.3% ด้วยน้ำหนักเพียง 155 กรัม
ในด้านความทนทาน Infinix ไม่ได้ประนีประนอมด้วยการใช้โครงสร้างอะลูมิเนียมระดับอากาศยานที่มอบความแข็งแกร่งและความหรูหรา หน้าจอโค้งได้รับการปกป้องด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass 7i ที่ได้รับการพัฒนาให้ทนทานต่อการตกกระแทกจากความสูง 1.5 เมตร และต้านทานรอยขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้น
ด้านความงาม HOT 60 Pro+ มีให้เลือกถึง 10 สีที่หลากหลาย โดยสีไฮไลต์อย่าง Coral Tides (ชมพู) ได้แรงบันดาลใจจากหาดทรายสีชมพูที่งดงามบนเกาะโคโมโด ประเทศอินโดนีเซีย ตัดกับโมดูลกล้องดีไซน์ใหม่ที่มีไฟ Active Halo เพิ่มความโดดเด่นแต่ยังคงความมินิมอลที่ทันสมัย
หน้าจอ AMOLED 144 Hz ที่สว่างสุดแรง
หน้าจอเป็นหัวใจสำคัญของสมาร์ตโฟนสมัยใหม่ และ HOT 60 Pro+ ไม่ผิดหวังด้วยหน้าจอ AMOLED ความละเอียด 1.5K ที่มอบสีสันสดใสสมจริงและคมชัดในทุกรายละเอียด อัตรารีเฟรชสูงถึง 144 Hz ทำให้การเลื่อนหน้าจอและการเล่นเกมลื่นไหลไร้สะดุด
จุดเด่นที่น่าประทับใจคือขอบจอด้านล่างที่บางเฉียบเพียง 0.88 มิลลิเมตร ทำให้ได้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่สูงมาก ความสว่างสูงสุดที่ 4,500 Nits ทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นเนื้อหาบนหน้าจอได้ชัดเจนแม้ในสภาพแสงแดดจ้าที่สุด
สำหรับการใช้งานที่เป็นมิตรต่อสายตา หน้าจอมาพร้อมฟีเจอร์ AI Eye Comfort ที่ปรับคุณภาพแสงและสีอัตโนมัติทั้งสำหรับการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไป ลดความเมื่อยล้าของสายตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือบนหน้าจอทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ
ขุมพลังแรงด้วยชิปเซต MediaTek Helio G200
HOT 60 Pro+ และ HOT 60 Pro ได้รับเกียรติเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่ได้ใช้ชิปเซตประมวลผล MediaTek Helio G200 ซึ่งเป็นผลงานร่วมมือพิเศษระหว่าง MediaTek และ Infinix ในการพัฒนาประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
ชิปเซตตัวนี้ได้รับการปรับแต่งพิเศษเพื่อมอบประสิทธิภาพความเร็วสูงและประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหลไร้สะดุด แม้จะใช้งานหนักเป็นเวลานานก็ตาม ทั้งการเล่นเกม การดูวิดีโอความละเอียดสูง หรือการทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง
แม้ว่าตัวเครื่องจะมีความบางสุดขีด แต่ HOT 60 Pro+ ยังคงมาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ทันสมัยที่สุด ด้วยการใช้วัสดุระบายความร้อน 11 ชั้นและแผ่นแกรไฟต์ขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ถึง 8% และสามารถลดอุณหภูมิของชิปเซตได้สูงสุดถึง 5 องศาเซลเซียส
ความน่าเชื่อถือของระบบได้รับการรับรองจาก TÜV SÜD ซึ่งเป็นองค์กรมาตรฐานระดับโลก ยืนยันว่าเครื่องสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นต่อเนื่องถึง 60 เดือน โดยไม่มีปัญหาการชะลอตัวหรือค้าง
ระบบกล้อง 50MP พร้อมเทคโนโลยี AI ล้ำสมัย
การถ่ายภาพเป็นอีกจุดแข็งสำคัญของ HOT 60 Pro+ ด้วยการใช้เซนเซอร์หลัก SONY IMX882 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่มีความไวแสงสูง ช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้คมชัดและสีสันสวยงามแม้ในสภาพแสงน้อยหรือกลางคืน
เทคโนโลยีประมวลผลภาพ AI RAW ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Infinix ช่วยเพิ่มรายละเอียดและความแม่นยำของสีให้กับทุกภาพที่ถ่าย ทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ ฟีเจอร์ 2x lossless zoom ช่วยให้สามารถซูมภาพได้ 2 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียดใด ๆ
ฟีเจอร์ AI ที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ รวมถึง AI Vogue Portraits ที่สามารถสร้างภาพโปรไฟล์เคลื่อนไหวสุดเท่บนหน้าจอล็อก AI Image Extender ที่ขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นโดยยังคงความคมชัดไว้ และ AI Eraser ที่ช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้อย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ
พลังงานอึดทนด้วยแบตเตอรี่ 5,160 mAh
Infinix ได้ทำลายข้อจำกัดเดิม ๆ ที่ว่าสมาร์ตโฟนที่บางจะต้องมีแบตเตอรี่ที่มีความจุน้อย ด้วยการพัฒนาแบตเตอรี่ดีไซน์ใหม่ที่บางเฉียบแต่มีความจุสูงถึง 5,160 mAh ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น 20% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ความทนทานของแบตเตอรี่ก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน โดยยังคงประสิทธิภาพมากกว่า 80% แม้จะผ่านการชาร์จไปแล้วถึง 1,800 รอบ หมายความว่าผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจเป็นเวลาหลายปีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่ลดลง
การชาร์จเร็วเป็นอีกจุดเด่น โดยในรุ่น HOT 60 Pro+ รองรับการชาร์จไวสูงสุด 45W สามารถชาร์จจาก 1% ถึง 50% ได้ในเวลาเพียง 23 นาที และชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 55 นาที ทำให้ไม่ต้องรอนานเมื่อต้องการใช้งานด่วน
ฟีเจอร์พิเศษที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล
HOT 60 Series มาพร้อมฟีเจอร์ Folax AI Assistant ผู้ช่วย AI อัจฉริยะที่สามารถเรียกใช้งานได้รวดเร็วผ่านปุ่ม AI โดยเฉพาะ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือจาก AI ได้ทันทีในทุกสถานการณ์
ระบบปฏิบัติการ XOS 15.1.1 เวอร์ชันล่าสุดได้รับการปรับปรุงดีไซน์ให้สวยงามและการทำงานที่ลื่นไหลขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่
ฟีเจอร์ UltraLink Free Call ที่มีเฉพาะในรุ่น Pro+ เป็นนวัตกรรมสื่อสารที่น่าสนใจ สามารถโทรและส่งข้อความผ่านบลูทูทได้ไกลสุดถึง 1.5 กิโลเมตร แม้ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณมือถือ เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ห่างไกลหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP64 ในทุกรุ่น และ IP65 ในรุ่น HOT 60 Pro+ ให้ความมั่นใจในการใช้งานในทุกสภาพอากาศ ลำโพงสเตอริโอคู่ที่ปรับแต่งเสียงโดย JBL มอบประสบการณ์เสียงที่สมจริงและเต็มอรรถรส
ราคาและตัวเลือกที่หลากหลาย
Infinix HOT 60 Series พร้อวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วทั่วประเทศไทย ในราคาที่สุดคุ้มค่าดังนี้
Infinix HOT 60 Pro+ รุ่นเรือธงพร้อมหน่วยความจำ RAM 16 GB และ ROM 256 GB ในราคา 6,499 บาท มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Titanium Silver, Sleek Black, Misty Violet, Sonic Yellow และ Coral Tides
Infinix HOT 60 Pro มี 2 ตัวเลือก คือ รุ่น RAM 16 GB + ROM 256 GB ราคา 5,499 บาท และรุ่น RAM 16 GB + ROM 128 GB ราคา 4,999 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Titanium Silver, Sleek Black, Sapphire Blue และ Coral Tides
Infinix HOT 60i รุ่นเริ่นต้นพร้อม RAM 16 GB + ROM 256 GB ราคา 3,999 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Titanium Silver, Sleek Black และ Shadow Blue
การเปิดตัว HOT 60 Series ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Infinix ในการมอบสมาร์ตโฟนที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยในราคาที่เข้าถึงได้ โดยไม่ประนีประนอมในด้านคุณภาพ ด้วยการออกแบบที่ทำลายข้อจำกัด ประสิทธิภาพที่เหนือชั้น และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ HOT 60 Series พร้อมที่จะเป็นตัวเลือกหลักในตลาดสมาร์ตโฟนระดับกลางถึงกลางสูงของประเทศไทย
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและจุดจำหน่ายได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของ Infinix Thailand หรือร้านค้าพันธมิตรทั่วประเทศ