สื่ออังกฤษยื่นร้องรัฐเรียกสอบ Google หลัง AI Overviews ดึงทราฟฟิกข่าวลดฮวบ 79%

AI Exclusive ไอที

วิกฤตใหม่วงการสื่อดิจิทัล! กลุ่มสื่ออิสระอังกฤษยื่นคำร้องต่อหน่วยงานควบคุมการแข่งขัน เรียกร้องตรวจสอบระบบ AI Overviews ของ Google ที่ทำให้เว็บไซต์ข่าวสูญเสียผู้เข้าชมสูงสุด 79% จากผลการศึกษาล่าสุด ส่งสัญญาณเตือนภัยต่ออนาคตข่าวคุณภาพออนไลน์

การเคลื่อนไหวครั้งใหม่ของวงการสื่อในอังกฤษกำลังส่ายคลื่นไปทั่วโลก เมื่อกลุ่มสื่ออิสระหลายแห่งออกมาร่วมมือกันยื่นคำร้องต่อสำนักงานควบคุมการแข่งขันและการตลาดของอังกฤษ (CMA) เพื่อเรียกร้องให้เข้าตรวจสอบระบบ AI Overviews ของ Google ที่กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อการดำรงอยู่ของธุรกิจสื่อออนไลน์

ฟีเจอร์ AI Overviews ซึ่งเป็นเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่สรุปคำตอบจากคำค้นหาและแสดงผลในตำแหน่งบนสุดของหน้าผลการค้นหา กำลังกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อแหล่งรายได้หลักของธุรกิจสื่อ เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถได้รับข้อมูลที่ต้องการโดยตรงจากหน้าค้นหา โดยไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ต้นฉบับ

ผลการศึกษาเผยตัวเลขน่าตกใจ ทราฟฟิกหายถึง 79%

บริษัท Authoritas ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล SEO ได้เผยผลการศึกษาที่สร้างความตกใจให้กับวงการสื่อทั่วโลก โดยพบว่าเว็บไซต์ที่เคยครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในผลการค้นหา อาจสูญเสียผู้เข้าชมสูงสุดถึง 79% เมื่อเนื้อหาของพวกเขาถูกนำไปใช้ในการสร้างคำตอบของ AI Overviews

ตัวเลขที่น่าสะเทือนใจนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในยุคปัญญาประดิษฐ์ ที่มักจะพึ่งพาคำตอบสำเร็จรูปจาก AI แทนการสำรวจข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ด้วยตนเอง

ในขณะเดียวกัน การสำรวจของ Pew Research Center ที่ศึกษาการค้นหามากกว่า 69,000 ครั้งในสหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลที่สนับสนุนแนวโน้มนี้ โดยพบว่าผู้ใช้งานจะคลิกลิงก์ข่าวที่ปรากฏใต้ข้อความสรุปจาก AI เพียง 1 ใน 100 ครั้งเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าการแสดงผลของ AI Overviews มีประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ถึงขนาดที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้บริหารสื่อใหญ่เผยผลกระทบเชิงตัวเลข

คาร์ลี สตีเว่น (Carly Steven) ผู้บริหารของ MailOnline หนึ่งในเว็บไซต์ข่าวที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเว็บไซต์ของเธอประสบปัญหาการลดลงของอัตราการคลิกจากหน้าค้นหาของ Google อย่างมีนัยสำคัญ

“เราเห็นการลดลงของทราฟฟิกจากการค้นหาถึง 56% บนแพลตฟอร์มเดสก์ท็อป และ 48% บนอุปกรณ์มือถือ” สตีเว่นกล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าตัวเลขเหล่านี้เกิดขึ้นแม้ว่าฟีเจอร์ AI Overviews จะยังไม่ได้ถูกนำไปใช้กับผลการค้นหาทั้งหมด

ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นถึงขนาดของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หาก Google ตัดสินใจขยายการใช้งาน AI Overviews ไปยังคำค้นหาทุกประเภท ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจสื่อออนไลน์หลายแห่งต้องเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรงกว่านี้อีกมาก

กลุ่มสื่ออิสระรวมตัวต่อสู้ระบบผูกขาด

การเคลื่อนไหวครั้งนี้มิได้เป็นเพียงการร้องเรียนเดี่ยวๆ แต่เป็นความพยายามร่วมกันของกลุ่มองค์กรสำคัญหลายแห่ง ได้แก่ Foxglove, Independent Publishers Alliance และ Movement for an Open Web ที่ได้ร่วมมือกันยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อหน่วยงานควบคุมการแข่งขัน

วัตถุประสงค์หลักของการร้องเรียนครั้งนี้คือการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอำนาจผูกขาดของ Google ในระบบค้นหาออนไลน์ โดยกลุ่มสื่อเหล่านี้ระบุว่าพฤติกรรมของ Google ได้ละเมิดสิทธิของผู้สร้างเนื้อหา และทำให้ข่าวสารจากแหล่งอิสระค่อยๆ หายไปจากสายตาของสาธารณะ

โรซา เคิร์ลลิ่ง (Rosa Curling) ผู้อำนวยการของ Foxglove ได้ให้ความเห็นที่เข้มข้นเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ โดยกล่าวว่า “การที่ Google นำผลงานของนักข่าวไปใช้แล้วทำเหมือนเป็นของตัวเองนั้นแย่พอแล้ว แต่สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือ พวกเขานำผลงานเหล่านี้ไปป้อนเข้าสู่เครื่องมือของตนเพื่อสร้างกำไร ขณะเดียวกันกลับลดโอกาสที่สื่อจะเข้าถึงผู้อ่าน”

ผู้นำสมาคมสื่อชี้ภัยคุกคามอนาคตข่าวคุณภาพ

โอเว่น เมอริดิธ (Owen Meredith) ประธานสมาคม News Media Association ของอังกฤษ ได้ออกมาให้ความเห็นที่สะท้อนความกังวลของวงการสื่อทั้งหมด โดยระบุว่า Google กำลังสร้างระบบปิดที่ขังผู้ใช้ไว้ภายในแพลตฟอร์มของตนเอง

“Google กำลังเอาเนื้อหาที่คนอื่นสร้างไปหากำไร โดยไม่เปิดทางให้สื่อเข้าถึงผู้ชม สถานการณ์แบบนี้จะทำลายอนาคตของข่าวคุณภาพบนอินเทอร์เน็ต” เมอริดิธกล่าว

เขายังเสริมด้วยความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของระบบสื่อในอนาคต โดยเตือนว่า “ตอนนี้สถานการณ์มันไม่ยั่งยืนเลย ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ สุดท้ายข้อมูลข่าวสารที่มีคุณภาพบนโลกออนไลน์จะค่อยๆ หายไป ควรรีบจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด”

คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับระบบนิเวศสื่อดิจิทัล ที่การสูญเสียรายได้จากทราฟฟิกไม่เพียงแต่ส่งผลต่อธุรกิจเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่การลดลงของคุณภาพเนื้อหาข่าวสารในระยะยาว

Google ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา

เมื่อเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก Google ได้ออกมาแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ โดยโฆษกของบริษัทระบุว่างานวิจัยที่สื่อนำมาอ้างอิงนั้น “ไม่ถูกต้อง” และมีข้อบกพร่องทางวิธีการ

ตัวแทน Google ยังกล่าวหาว่าข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาเป็นข้อมูลเก่าที่ไม่สะท้อนถึงการใช้งานจริงในปัจจุบัน พร้อมยืนยันว่าบริษัทยังคงส่งผู้ใช้งานไปยังเว็บไซต์ต่างๆ จำนวนหลายพันล้านครั้งต่อวัน

นอกจากนี้ Google ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าระบบ AI Overviews ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อลดการเข้าชมเว็บไซต์ แต่มองว่าเทคโนโลยีนี้ช่วยกระตุ้นให้เกิดคำถามใหม่ๆ มากกว่าเดิม ซึ่งอาจนำไปสู่การค้นหาเพิ่มเติมในที่สุด

ความไม่โปร่งใสของข้อมูลเป็นปัญหาใหญ่

แม้ว่า Google จะออกมาให้คำชี้แจงเพื่อลดข้อกังวลของผู้ประกอบการสื่อ แต่ผู้บริหารหลายรายยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสของข้อมูล โดยระบุว่าข้อมูลภายในของ Google ยังไม่มีความโปร่งใสเพียงพอที่จะให้ผู้ประกอบการสื่อสามารถประเมินผลกระทบที่แท้จริงได้

การขาดความโปร่งใสนี้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวของ AI Overviews ต่อระบบนิเวศสื่อดิจิทัล ผู้บริหารสื่อหลายรายจึงเรียกร้องให้ Google เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น เพื่อให้สามารถวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจในอนาคตได้อย่างเหมาะสม

ผลกระทบต่อสื่อขนาดเล็กและสื่ออิสระ

ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสื่อขนาดเล็กและสื่ออิสระมากกว่าสื่อใหญ่ เนื่องจากพวกเขามักจะพึ่งพาทราฟฟิกจาก Google เป็นแหล่งรายได้หลัก ไม่เหมือนกับสื่อขนาดใหญ่ที่มีช่องทางการหารายได้ที่หลากหลายกว่า

สื่อเล็กหลายแห่งอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการปิดตัวลง หากไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ทันท่วงที ซึ่งจะส่งผลต่อความหลากหลายของข้อมูลข่าวสารและมุมมองที่แตกต่างในสังคม

ความท้าทายของยุคปัญญาประดิษฐ์

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายใหม่ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเข้าถึงข้อมูล ผู้ใช้งานสมัยใหม่ต้องการได้รับคำตอบที่รวดเร็วและตรงประเด็น โดยไม่ต้องเสียเวลาในการสำรวจข้อมูลจากหลายแหล่ง

ในขณะเดียวกัน ผู้สร้างเนื้อหาต้องเผชิญกับความจำเป็นในการปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงนี้ พร้อมกับการหาทางสร้างมูลค่าเพิ่มที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้

แนวทางแก้ไขและอนาคตของวงการสื่อ

หลายผู้เชี่ยวชาญเสนอแนะว่าวงการสื่อควรมองหาโอกาสในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและไม่สามารถทดแทนได้ด้วย AI เช่น การวิเคราะห์เชิงลึก การสัมภาษณ์พิเศษ หรือการนำเสนอมุมมองที่เฉพาะเจาะจง

นอกจากนี้ การสร้างชุมชนผู้ติดตามที่แน่นแฟ้นและการพัฒนาช่องทางการเข้าถึงโดยตรงอาจเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการลดการพึ่งพาทราฟฟิกจากเครื่องมือค้นหา

บทสรุป: จุดเปลี่ยนสำคัญของวงการสื่อออนไลน์

การร้องเรียนของสื่ออังกฤษต่อ Google เกี่ยวกับระบบ AI Overviews ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์สื่อดิจิทัล ที่แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกของผู้ใช้ กับการรักษาความยั่งยืนของระบบนิเวศสื่อมวลชน

ผลลัพธ์ของการตรวจสอบจากหน่วยงานควบคุมการแข่งขันจะเป็นตัวกำหนดทิศทางสำคัญของอุตสาหกรรมสื่อในอนาคต ไม่เพียงแต่ในอังกฤษเท่านั้น แต่อาจส่งผลกระทบไปยังวงการสื่อทั่วโลก

สิ่งที่แน่นอนคือ วงการสื่อต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และหาทางสร้างความสมดุลระหว่างการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ประโยชน์ กับการรักษาคุณภาพและความหลากหลายของข้อมูลข่าวสารที่สาธารณะควรได้รับ