การใช้วัสดุแอสฟัลต์เป็นที่รู้จักกันในสมัยโบราณ

ฉันอธิบายการใช้แอสฟัลต์อย่างแพร่หลายในการก่อสร้างสมัยใหม่ด้วยคุณสมบัติที่มีค่ามาก เช่น ความยืดหยุ่น การยึดเกาะ ความทนทานต่ออิทธิพลทางเคมีและทางกล อิทธิพลของบรรยากาศ ฯลฯ เนื่องจากพบว่ามีการนำไปใช้ในงานวิศวกรรมโยธา กล่าวคือ:

1. เมื่อติดตั้งพื้นทางเท้า
2. ผลิตงานมุงหลังคา,
3. การผลิตงานฉนวน ฯลฯ

งานติดตั้งพื้นยางมะตอย

เพื่อจุดประสงค์นี้ใช้แอสฟัลต์หล่อซึ่งประกอบด้วยแอสฟัลต์สีเหลืองอ่อนน้ำมันดินและกรวดหรือเมล็ดหินขนาดเล็ก ความทนทานของทางเท้า นอกเหนือจากคุณภาพของวัสดุและความละเอียดของงานแล้ว ยังขึ้นอยู่กับการเลือกส่วนผสมของแอสฟัลต์ที่ถูกต้องในระดับสูง

 

ปัจจุบันมี 3 วิธีหลักในการเลือกส่วนผสม:

1. คัดเลือกตามสูตรที่พิสูจน์แล้วในทางปฏิบัติ หลังมักจะได้รับในรูปแบบของขีด จำกัด ของความผันผวนของเศษส่วนของวัสดุหินแต่ละ;
2. การคัดเลือกตามหลักการของความหนาแน่นสูงสุดโดยพิจารณาจากความจริงที่ว่าช่องว่างของแร่ที่ใหญ่ที่สุดนั้นเต็มไปด้วยเมล็ดพืชที่เล็กกว่าและในทางกลับกันก็เล็กกว่า ช่องว่างที่เหลือของส่วนผสมแร่จะเต็มไปด้วยน้ำมันดิน นอกจากวิธีการนี้ในการกำหนดปริมาณของน้ำมันดินแล้ว สามารถกำหนดแบบหลังได้ตามความหนาของฟิล์มที่จำเป็นสำหรับการห่อหุ้มเมล็ดแร่ ในทั้งสองกรณี กำหนดปริมาณของน้ำมันดินในขั้นสุดท้ายตามการทดสอบคุณสมบัติทางกลของส่วนผสม พบความหนาแน่นสูงสุดของส่วนผสมในการทดลองโดยการผสมวัสดุหินต่างๆ หรือใช้เส้นโค้งของ Graf, Hermann, Bolomey และ Pashkov ซึ่งได้มาจากการทดลองภาคปฏิบัติและการพิจารณาทางทฤษฎี
3. การคัดเลือกโดยตัวแทนมีผลผูกพัน ชิ้นส่วนแร่ขนาดใหญ่และขนาดเล็กถูกเลือกตามความหนาแน่นสูงสุดและอัตราส่วนของน้ำมันดินและมวลรวม – ตามคุณสมบัติการสร้างของส่วนผสม สำหรับยางมะตอยที่เทแล้วควรกำหนดปริมาณน้ำมันดิน 5-2% โดยน้ำหนักมากกว่าที่จำเป็นในการเติมส่วนผสมนี้ ส่วนประกอบโดยประมาณ: แอสฟัลต์มาสติก 53%, น้ำมันดิน 4%, กรวด 43% และทราย

 

เหตุผลในการทำลายผิวทางแอสฟัลต์

การทำลายผิวทางแอสฟัลต์อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุต่อไปนี้:

1. ฐานที่เตรียมไว้ไม่ดี
2. วัสดุที่ไม่เหมาะสม
3. ปริมาณที่ไม่ถูกต้อง
4. ประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่เหมาะสม:

• ก) การผสมส่วนผสมไม่เพียงพอ
• ข) อุณหภูมิของส่วนผสมไม่เพียงพอ
• ค) การละเมิดปริมาณที่กำหนด
• ง) การปรับระดับของส่วนผสมไม่ดี

 

เนื่องจากยางมะตอยมีปริมาณค่อนข้างสูง แอสฟัลต์หล่อบางครั้งทำให้พื้นผิวมีความนุ่มนวล สร้างคลื่นและบนทางลาด ในบางกรณี ในทางกลับกัน รอยร้าวก่อตัวขึ้นในพื้นผิวแอสฟัลต์ เพื่อเพิ่มความทนทานของการเคลือบผิวจะใช้น้ำมันดินที่แข็งกว่าและแทนที่จะใช้ทรายและกรวดที่โค้งมนจะใช้หินแข็งที่บดเทียมและมวลรวมจำนวนมาก

 

การซ่อมผิวทางแอสฟัลต์

หากผิวทางแอสฟัลต์ได้รับความเสียหาย พื้นที่ที่เสียหายจะถูกตัดลง ขอบจะได้รับรูปร่างที่ถูกต้อง และด้านข้างจะทำในแนวตั้ง สถานที่ที่จะซ่อมแซมได้รับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงขอบถูกปกคลุมด้วยน้ำมันดินที่หลอมเหลวหรือเหลวหลังจากนั้นจะถูกปิดผนึกด้วยแอสฟัลต์หล่อที่เหมือนกัน หากพื้นผิวของสารเคลือบมีรูพรุนและหยาบเกินไป ให้ทำการชุบผิวด้วยน้ำมันดินหรืออิมัลชัน ตามด้วยโรยด้วยหินเมล็ด ถ้าณต้องการความสะดวกให้ใช้ ยางมะตอยสำเร็จรูป ซึ่งมีราคาที่ถูก