เอชพี ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์เวิร์กสเตชันรุ่นล่าสุด “HP Z Series” ที่มาพร้อมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระดับมืออาชีพครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มครีเอเตอร์ นักพัฒนา AI และองค์กรธุรกิจทุกขนาดในประเทศไทย ท่ามกลางการเติบโตของการใช้งาน AI ในที่ทำงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเอชพีในการสนับสนุนอนาคตแห่งการทำงานในยุคดิจิทัล รวมถึงการเดินหน้าสนับสนุนโครงการ “Made in Thailand” เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ตอบโจทย์แนวโน้มการใช้ AI ที่เพิ่มสูงขึ้น
การเปิดตัวเวิร์กสเตชัน HP Z Series ในครั้งนี้มาในช่วงเวลาที่การใช้งานเทคโนโลยี AI ในที่ทำงานขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยอ้างอิงจากรายงาน Work Relationship Index ฉบับล่าสุดของเอชพี พบว่าพนักงานกว่า 66 เปอร์เซ็นต์ ได้นำเอาเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว
แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในโลกของการทำงาน ที่ผู้ปปฏิบัติงานต้องการอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานโมเดลภาษาขนาดใหญ่ การสร้างเนื้อหาด้วย AI หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
เจาะลึกขุมพลัง HP Z Series ที่ออกแบบเพื่อ AI
กลุ่มผลิตภัณฑ์ HP Z Workstations ที่เปิดตัวในครั้งนี้ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับเวิร์กโฟลว์ที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี AI โดยครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่งานด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล การสร้างสรรค์ผลงานดิจิทัล การออกแบบกราฟิก ไปจนถึงงานวิศวกรรมและการออกแบบที่มีความซับซ้อนสูง
ผลิตภัณฑ์ในซีรีส์นี้มีให้เลือกทั้งในรูปแบบพกพา คือ ZBook Series ที่เหมาะสำหรับมืออาชีพที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน และรูปแบบเดสก์ท็อปประสิทธิภาพสูง Z Desktop Series ที่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการพลังการประมวลผลระดับสูงสุด
สิ่งที่ทำให้ HP Z Series โดดเด่นคือการออกแบบที่คำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบัน ที่ต้องการประมวลผลงาน AI บนตัวเครื่องเอง (On-device AI) เพื่อความรวดเร็วและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
ความร่วมมือยุทธศาสตร์กับ NVIDIA
หัวใจสำคัญของประสิทธิภาพอันทรงพลังของ HP Z Series คือความร่วมมือกับ NVIDIA ในการนำเสนอการ์ดจอระดับมืออาชีพรุ่นล่าสุด NVIDIA RTX™ Pro Blackwell Series สู่ตลาดประเทศไทยเป็นครั้งแรก
การ์ดจอรุ่นใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI ระดับสูง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models หรือ LLMs) ได้บนตัวเครื่องโดยตรง รวมถึงประมวลผลงานกราฟิกที่ซับซ้อนและต้องการความละเอียดสูงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยี RTX Pro Blackwell ยังมาพร้อมกับการปรับปรุงด้านการประหยัดพลังงานและการจัดการความร้อน ทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องในระยะเวลานาน โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน
โซลูชันครบวงจรเพื่อการทำงานแบบไฮบริด
นอกเหนือจากด้านฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง เอชพียังให้ความสำคัญกับการรองรับรูปแบบการทำงานในยุคปัจจุบันที่มีความหลากหลาย ผ่านโซลูชัน HP Remote Access Solutions ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเวิร์กสเตชันของตนได้อย่างปลอดภัยจากทุกที่ ทุกเวลา
ระบบนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของการทำงานแบบไฮบริดที่กลายเป็นรูปแบบมาตรฐานใหม่ของการทำงาน โดยผู้ใช้งานสามารถประมวลผลงานที่ต้องการกำลังการประมวลผลสูงจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะทำงานจากบ้าน ร้านกาแฟ หรือสำนักงานสาขา
ระบบความปลอดภัยขั้นสูง HP Wolf Security
ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพการทำงานที่เป็นเลิศ เอชพียังนำเสนอ HP Wolf Security for Business ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลและอุปกรณ์จากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นในยุคดิจิทัล
ระบบความปลอดภัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่ต้องจัดการกับข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลลูกค้า ทรัพย์สินทางปัญญา และข้อมูลทางการเงิน โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานระยะไกลและการใช้งาน AI กลายเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้มีจุดเสี่ยงใหม่ๆ เกิดขึ้น
HP Wolf Security ให้การปกป้องแบบหลายชั้น ตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์ ระบบปฏิบัติการ ไปจนถึงแอปพลิเคชัน รวมถึงการตรวจสอบภัยคุกคามแบบเรียลไทม์และการตอบสนองต่อเหตุการณ์ความปลอดภัยอย่างอัตโนมัติ
การสนับสนุนโครงการ Made in Thailand
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเอชพีในการสนับสนุนโครงการ “Made in Thailand” ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ
เอชพีเล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การนำเข้าเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง HP Z Series จึงไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรและองค์กรไทยให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้
เป้าหมายกลุ่มผู้ใช้งานหลัก
กลุ่มผลิตภัณฑ์ HP Z Series ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลาย ได้แก่
กลุ่มครีเอเตอร์และศิลปินดิจิทัล ที่ต้องการประมวลผลงานกราฟิก 3D การตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูง และการสร้างเนื้อหาด้วย AI
นักพัฒนาซอฟต์แวร์และ AI Engineers ที่ต้องการทดสอบและพัฒนาโมเดล AI บนเครื่องของตัวเอง
วิศวกรและนักออกแบบ ที่ต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ CAD CAM และการจำลองที่ซับซ้อน
นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และนักวิเคราะห์ ที่ต้องประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และใช้งานเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง
องค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่ต้องการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐาน IT เพื่อรองรับการใช้งาน AI
ผลกระทบต่อตลาดและอุตสาหกรรม
การเปิดตัว HP Z Series คาดว่าจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมครีเอทีฟ อุตสาหกรรมเทคโนโลยี และการศึกษา
ในด้านอุตสาหกรรมครีเอทีฟ เครื่องมือใหม่นี้จะช่วยยกระดับคุณภาพผลงานของครีเอเตอร์ไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดระดับสากล รวมถึงการเปิดโอกาสในการสร้างเนื้อหาและผลงานศิลปะรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI
สำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การมีอุปกรณ์ที่สามารถรองรับการพัฒนา AI ได้อย่างเต็มรูปแบบจะช่วยเร่งการพัฒนาและนำไปใช้งานเทคโนโลยี AI ในธุรกิจต่างๆ ทำให้เกิดการยกระดับประสิทธิภาพและการแข่งขันของธุรกิจไทย
มุมมองผู้บริหารเอชพี
ผู้บริหารระดับสูงของเอชพีประเทศไทยแสดงความมั่นใจว่า การเปิดตัว HP Z Series จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยี AI ในประเทศไทย
“เราเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในภูมิภาค การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของยุคปัจจุบันจึงเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว” ตัวแทนผู้บริหารกล่าว
แผนการตลาดและการขาย
เอชพีมีแผนการตลาดและการขายที่ครอบคลุม โดยจะเน้นการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสามารถของเทคโนโลยี AI และการประยุกต์ใช้ในการทำงานจริง
บริษัทจะจัดกิจกรรมสาธิต เวิร์กช็อป และการฝึกอบรมเพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจการใช้งานและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการให้คำปรึกษาในการเลือกระบบที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละองค์กร
อนาคตของตลาดเวิร์กสเตชันในไทย
การเปิดตัว HP Z Series สะท้อนถึงการเติบโตของตลาดเวิร์กสเตชันในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีข้างหน้า ขับเคลื่อนโดยการเพิ่มขึ้นของการใช้งาน AI การทำงานระยะไกล และความต้องการประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อน
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ตลาดเวิร์กสเตชันในไทยจะเติบโตในอัตราสองหลักในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า โดยการขยายตัวจะมาจากทั้งองค์กรขนาดใหญ่ที่อัพเกรดระบบ และธุรกิจขนาดกลางที่เริ่มเข้าสู่ยุคการใช้งาน AI
การเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ HP Z Series ของเอชพีประเทศไทยจึงไม่เพียงแต่เป็นการขยายตัวของธุรกิจ แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญเพื่อการพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของประเทศไทยในระยะยาว และการสร้างความพร้อมสำหรับอนาคตของการทำงานในยุคปัญญาประดิษฐ์