“ออสซี่” บล็อคเฟซบุ๊ก CNN หลังศาลชี้ “สื่อฯ” ต้องรับผิดชอบโพสต์หมิ่นประมาทของผู้ใช้

เรื่องน่าสนใจล่าสุด

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น สื่อมวลชนชื่อดังของสหรัฐฯ ถูกห้ามเข้าถึงเพจเฟซบุ๊กของตนเองในออสเตรเลีย หลังศาลแห่งหนึ่งพิพากษาว่าบริษัทสื่อสารมวลชนทั้งหลายต้องเป็นผู้รับชอบต่อโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทต่างๆนานาของพวกผู้ใช้ บนรายงานข่าวต่างๆของพวกเขา

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พวกผู้ใช้ชาวออสเตรเลียที่พยายามหาทางเข้าถึงเพจเฟซบุ๊กของซีเอ็นเอ็น จะได้รับข้อความแจ้งว่าเนื้อหาดังกล่าวถูกจำกัด

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากศาลสูงของออสเตรเลีย พิพากษายืนคำตัดสินก่อนหน้านี้ ที่ว่าบริษัทสื่อมวลชนทั้งหลายต้องเป็นผู้รับผิดชอบความคิดเห็นของผู้ใช้ในรายงานข่าวหนึ่งข่าวใดก็ตาม เปิดทางให้บรรดาสื่อมวลชนมีสิทธิถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายหมิ่นประมาทอันหนักหน่วงของประเทศ

ซีเอ็นเอ็นเปิดเผยในวันพุธ(29ก.ย.) ว่าได้ร้องขอให้เฟซบุ๊กช่วยบรรดาสื่อมวลชนทั้งหลาย ปิดกั้นความคิดเห็นบนแฟลตฟอร์มของพวกเขาในออสเตรเลีย แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เลือกที่จะไม่ดำเนินการตามที่ขอ

“เราผิดหวัง อีกครั้งที่เฟซบุ๊กไม่ยอมหาทางรับประกันว่าแฟลตฟอร์มของพวกเขาจะมีพื้นที่หนึ่งๆสำหรับสื่อสารมวลชนที่มีความน่าเชื่อถือและบทสนทนาที่ก่อให้เกิดผล เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆในปัจจุบันในบรรดาผู้ใช้เฟซบุ๊ก” โฆษกของซีเอ็นเอ็นระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์

เฟซบุ๊กแถลงในเดือนมีนาคม ว่าบรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายสามารถปิดความคิดเห็นสำหรับโพสต์ต่างๆอย่างเจาะจง แต่จะไม่ใช้รูปแบบปิดความคิดเห็นทั้งเพจตามคำร้องขอของทางซีเอ็นเอ็น

ดีแลน วอลเลอร์ ชนพื้นเมือง อดีตผู้ต้องขังเยาวชน เป็นผู้เริ่มคดีนี้ เขาอ้างว่าสื่อมวลชนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ รวมถึงดิ ออสเตรเลียและสกายนิวส์ ต้องรับผิดชอบต่อความเห็นหมิ่นประมาทของบรรดาผู้ใช้ ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวเขาบนเพจเฟซบุ๊กของสื่อมวลชนเหล่านั้น

บรรดาสื่อมวลชนทั้งหลายโต้แย้งว่าพวกเขาไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบในความคิดเห็นที่เผยแพร่ต่อสาธารณชนเหล่านั้น แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงออสเตรเลีย

ศาลระบุว่าบริษัทสื่อมวลชนทั้งหลายสามารถคัดกรองหรือบล็อกความคิดเห็นหมิ่นประมาทได้ถ้าต้องการ

กฎหมายหมิ่นประมาทของออสเตรเลียขึ้นชื่อด้านความซับซ้อนและเป็นหนึ่งในชาติที่มีกฎหมายหมิ่นประมาทเข้มข้นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

โฆษกของเฟซบุ๊กระบุว่าทางบริษัทสนับสนุนการปฏิรูปกฎหมาย และตั้งตาคอยให้ขอบเขตของเรื่องนี้มีความชัดเจนและแน่นอนยิ่งขึ้น

(ที่มา:เอเอฟพี /https://www.mgronline.com/around/detail/9640000097985)